วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การแปรรูปมะเขือเทศ

การแปรรูปมะเขือเทศ

มะเขือเทศ เป็นพืชที่สำคัญ ซึ่งนิยมบริโภคโดยนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด เป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะวิตามินเอและวิตามินซี ปัจจุบันได้มีการผลิตสำหรับส่งโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อแปรรูปในแบบต่าง ๆ เช่น น้ำมะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศ ความต้องการมะเขือเทศจะมีอยู่ตลอดทั้งปี การปลูกที่จะทำให้มะเขือเทศเจริญเติบโตได้ดี และให้ผลผลิตสูง ควรปลูกในฤดูหนาว เพราะอากาศเย็น จะมีส่วนทำให้มีการติดผลดี และมีแมลงรบกวนน้อยกว่าฤดูอื่นพันธุ์ของมะเขือเทศที่นิยมบริโภคมี 2 ชนิด ได้แก่ พันธุ์ที่บริโภคประจำวัน จะมีทั้งพันธุ์ผลโตและผลเล็ก พันธุ์ผลโตนิยมใช้ทำสลัดและประดับจานอาหาร ได้แก่ พันธุ์ฟลอราเดลและมาสเตอร์ เบอร์ 3 ผลจะมีรสดี เนื้อหนาแข็ง เปลือกไม่เหนียว ลักษณะผลกลมคล้ายแอปเปิ้ล ส่วนพันธุ์ผลเล็ก นิยมใช้ประกอบอาหารพื้นบ้าน ได้แก่ พันธุ์สีดา จะมีรสเปรี้ยว สีชมพู ชนิดที่ 2 พันธุ์สำหรับส่งโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ พันธุ์วีเอฟ 134-1-2 , พี 502 , พี 600 , พีโต้ 94 เบต้า เดลต้า ซอลซาลิโต้ ผลจะมีเนื้อมาก น้ำน้อย ผลแน่น สามารถขนส่งได้ในระยะทางไกล ๆ และเก็บไว้ได้นานไม่เน่าเสีย การแปรรูปมะเขือเทศ เนื่องจากมะเขือเทศเป็นพืชที่เก็บผลได้ไม่นานนัก การแปรรูปจึงมีความสำคัญต่อการบริโภค การแปรรูปทำได้หลายชนิด เช่น การทำแยมมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ ซอส ทอฟฟี่มะเขือเทศ หรือ นำไปทำปุ๋ยหมัก เป็นต้น การแปรรูป ควรเลือกต้นมะเขือเทศที่มีผลเจริญเติบโตเต็มที่และปราศจากโรคและแมลง ผลสุกแดงคาต้น นำมาแกะเอาเมล็ดออก ใช้เฉพาะเนื้อมะเขือเทศนำมาแปรรูป แต่มีบางท่านนำมาบริโภคสด โดยนำมาฟานแช่เย็นรับประทานกับเกลือ จะมีรสชาติดี หรือนำมาคั้นเป็นน้ำมะเขือเทศ บริโภคประจำวัน ส่วนสุภาพสตรีนิยมนำมาฟานเป็นแผ่นบาง ๆ นำมาวางบนใบหน้า สามารถบำรุงผิว คุณผู้หญิงให้เปล่งปลั่ง ใบหน้าสวยงามเพิ่มขึ้น ซึ่งการบริโภคมะเขือเทศทำได้ง่ายมาก ทั้งบริโภคสด และนำไปประกอบอาหาร โดยเฉพาะเป็นพืชแบบไทย ๆ ซื้อหาง่ายกว่าผลไม้ต่างประเทศ แล้วคุณได้บริโภคมะเขือเทศประจำวันหรือยัง

1.  แยมมะเขือเทศสูตร


ส่วนประกอบ
แยมมะเขือเทศ
แยมมะเขือเทศ
  •  มะเขือเทศ 1000 กรัม
  •  น้ำตาล 750 กรัม
  •  เกลือ ¼ ช้อนชา
  •  กรดซิตริก (หรือน้ำมะนาว 1 ผล) ¼ ช้อนชา
กรรมวิธี
มะเขือเทศผลใหญ่ ลวกในน้ำเดือด 2 นาที แล้วลอกเปลือกออกเสียบ้าง แต่ถ้าเป็นผลเล็ก ก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หนาพอประมาณ ต้มกับน้ำประมาณ ½ ถ้วยตวง เพื่อให้เนื้อนุ่มจนเนื้อเปื่อยดี แล้วเติมน้ำตาล เกลือ แล้วเคี่ยวจนได้ที่หรือเมื่อชั่งได้ตามน้ำหนักดังกล่าวในการทำแบบนี้ บางครั้งอาจมีรสเปรี้ยวน้อยไป แล้วแต่ชนิดของมะเขือเทศ ฉะนั้น ถ้าต้องการให้รสเปรี้ยวมากก็เติมกรดซิตริกอีกได้

ลักษณะมะเขือเทศ

ลักษณะมะเขือเทศ

มะเขือเทศเป็นพืชล้มลุกอายุเพียง 1 ปี ลำต้นตั้งตรง มีลักษณะเป็นพุ่ม มีขนอ่อน ๆ ปกคลุม ใบเป็นใบประกอบ ออกสลับกัน ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน บางใบเล็กรียาว บางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหยักลึกคล้ายฟันเลื่อยมีขนอ่อน ๆ ออกดอกเป็นช่อหรือดอกเดี่ยว บริเวณซอกใบ ดอกมีสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียวประมาณ 5-6 กลีบ ผลเป็นผลเดี่ยว มีขนาดรูปร่างและสีต่างกัน ซึ่งมีขนาดเล็กประมาณ 3 เซนติเมตร จนถึงใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตร รูปร่างมีทั้งกลม กลมแบน หรือกลมรี ผิวนอกลีบเป็นมัน ผลดิบมีสีเขียว หรือเขียวอมเทา เมื่อสุกจะมีสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อภายในฉ่ำด้วยน้ำมีรสเปรี้ยว เมล็ดมีเป็นจำนวนมาก มะเขือเทศมีหลายพันธุ์ เช่น พันธุ์สีดา พันธุ์โรมาเรดเพียร์ เป็นต้น

มะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ ?

มะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ ?


คำตอบ “มะเขือเทศคือผลไม้” ซึ่งเป็นไปตามตามคำนิยามของหลักทางพฤกษศาสตร์ เพราะผลไม้คือส่วนของรังไข่ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก ส่วน ผัก คือพืชที่กินได้ของพื่ชล้มลุก ไม่ว่าจะเป็น ราก ใบ ก้าน หัว หน่อ ดอก ซึ่งโดยปกติแล้วคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่ามะเขือเทศคือผักเพราะนำไปใช้ประกอบอาหารกันเป็นส่วนใหญ่ และมักคิดว่าผลไม้คือสิ่งที่ให้ความหวานนั่นเอง โดยมะเขือเทศที่นิยมรับประทานมากคือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี
ข้อควรรู้ ! : มะเขือเทศนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด โดยนิยมรับประทานกันมากกว่าผลไม้ยอดนิยมอันดับ 2 อย่าง กล้วย มากถึง 16 ล้านตันต่อปี ส่วนผลไม้อันดับ 3 คือ แอปเปิ้ล และ ส้ม ตามลำดับ
มะเขือเทศ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอยู่หลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี1 วิตามินบี2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และ ธาตุเหล็ก โดยมะเขือเทศขนาดปานกลางนั้นจะมีปริมาณของวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งลูก และมะเขือเทศหนึ่งผลมีปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการจำนวน 1 ใน 3 ของวิตามินเอทีร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว!! และยังมีสารจำพวก ไลโคพีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน และ กรดอะมิโน เป็นต้น และมะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เช่น ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน เป็นต้น
โดยการน้ำมะเขือเทศที่เราคั้นเองสด ๆ จะดีกว่าน้ำมะเขือเทศขวดหรือกล่อง และไม่ควรเลือกรับประทานมะเขือเทศดิบ เพราะอาจจะเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าจะได้รับประโยชน์ และการกินมะเขือเทศในปริมาณมากก็ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด มีงานวิจัยมะเขือเทศออกมาว่าการรับประทานมะเขือเทศให้ได้ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากเพราะจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างมาก และดีต่อสุขภาพผิวอย่างเห็นได้ชัดเจน

คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศ

คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศสีแดงสด ต่อ 100 กรัม
  • พลังงาน 18 กิโลแคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม
  • น้ำตาล 2.6 กรัม
  • เส้นใย 1.2 กรัม
  • ไขมัน 0.2 กรัม
    มะเขือเทศ
  • โปรตีน 0.9 กรัม
  • น้ำ 94.5 กรัม
  • วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม 5%
  • เบต้าแคโรทีน 449 ไมโครกรัม 4%
  • ลูทีน และ ซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม
  • วิตามินบี1 0.037 มิลลิกรัม 3%
  • วิตามินบี3 0.594 มิลลิกรัม 4%
  • วิตามินบี6 0.08 มิลลิกรัม 6%
  • วิตามินซี 14 มิลลิกรัม 17%
  • วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม 4%
  • วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม 8%
  • ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม 3%
  • ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม 5%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3%
  • ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม 5%
  • ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก

ประโยชน์ของมะเขือเทศ


ประโยชน์ของมะเขือเทศ


  1. ประโยชน์ของมะเขือเทศช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
  2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
  3. น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
  4. ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
  5. มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
  6. มะเขือเทศ มีบีตาแคโรทีน และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
  7. มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบาง ๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
  8. ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบาง ๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
  9. มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือ น้ํามะเขือเทศดอยคํา
  10. เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่าง ๆ เป็นต้น
  11. ช่วยใหร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45%
  12. ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หริออัลไซเมอร์
  13. ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
  14. ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
  15. มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
  16. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
  17. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
  18. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
  19. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
  20. ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
  21. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อราที่ปาก
  22. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
  23. ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
  24. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ ในเพศหญิง
  25. ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายในน้ำในสระที่มีคลอรีน
  26. ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
  27. ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น
  28. ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้ม หรือถูดมีดบาดได้

กินมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน (lycopene) สูง


 กินมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน (lycopene) สูง


    ไลโคปีน (Lycopene)เป็นสารสำคัญที่พบได้ในผลมะเขือเทศ จัดเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งใน 600 ชนิด พบไลโคปีนได้ใน มะเขือเทศ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และมะละกอ เป็นต้นพบไลโคปีนในปริมาณตั้งแต่ 0.9 –9.30 กรัม ใน 100 กรัมของมะเขือเทศสด

ไลโคปีนเป็นสารประกอบที่ได้รับความสนใจเนื่องจากมีรายงานว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ที่ชัดเจนที่สุด คือ มะเร็งต่อมลูกหมาก รองลงมา คือมะเร็งปอด กระเพาะอาหาร นอกจากนี้ก็ยังแสดงให้เห็นประโยชน์ของการได้รับไลโคปีนในการลดความเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ (colon) ทวารหนัก คอหอย ช่องปาก เต้านม ปากเป็นต้น
 ควรรับประทานมะเขือเทศสดหรือมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงอาหารแล้ว
ความเชื่อที่ว่าของสดดีกว่าของที่ปรุงแล้ว ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป   ในกรณีของมะเขือเทศเป็นหนึ่งในข้อยกเว้น  มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจะทำให้การยึดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง ทำให้ไลโคปีนถูกร่างกายนำไปใช้ได้ดีกว่า นอกจากนี้ความร้อนและกระบวนการต่างๆในการผลิตผลิตภัณฑ์มะเขือเทศยังทำให้ไลโคปีนเปลี่ยนรูปแบบ (จากไลโคปีนชนิด “ออลทรานส์”(all-trans-isomers)เป็นชนิด “ซิส”(cis -isomers)) คือ เป็นชนิดที่ละลายได้ดีขึ้น
มะเขือเทศสดและผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ ชนิดใดให้ไลโคปีนสูงกว่ากัน
โดยทั่วไป ปริมาณไลโคปีนในผลไม้และมะเขือเทศสดจะไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อนำมะเขือเทศสดไปผ่านกระบวนการผลิตให้อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศชนิดต่างๆ พบว่าปริมาณไลโคปีนสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการผ่านกระบวนการทำให้เข้มข้นขึ้น ดังนั้น อาหารอิตาเลียน พวกพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ที่มีการแต่งรสด้วยซอส หรือผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) ที่ผลิตจากมะเขือเทศ จึงเป็นแหล่งให้ไลโคปีนที่ดี ดังในตาราง
ตาราง แสดงปริมาณไลโคปีนในมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ

มะเขือเทศกับสุขภาพผิวที่หนุ่มๆสาวๆจะได้รับ


มะเขือเทศกับสุขภาพผิวที่หนุ่มๆสาวๆจะได้รับ


ถ้าจะพูดถึงวิธีบำรุงผิวพรรณแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดกับผลลัพธ์ที่ต้องการคือความเปล่งปลั่งความสดใสของผิวซึ่งท่านสามารถที่จะหาวิธีมาบำรุงผิวพรรณของท่านด้หลายวิธื วันนี้กระผมก็ขอเสนอ เจ้ามะเขือเทศไว้ในอ้อมกอดอ้อมใจนะครับ เพราะในมะเขือเทศมีวิตามินซีในปริมาณที่มากซึ่งวิตามินซีเหล่านั้นเป็นสารตั้งต้นของคอลาเจนที่มีส่วนในการดูแลฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดใสเต่งตึงและยังช่วยให้ผิวขาวอมชมพูมาจากข้างในอีกด้วยซึ่งมคำแนะนำสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามซึ่งท่านได้แนะไว้ว่าควรรับประทานไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละ10ผลเพราะจะได้ส่งผลประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อการทำงาน นอกจากนั้นในมะเขือเทศหากเรานำมาพอกหรือ ทาไว้บนหน้าจะพบว่า สามารถทำให้สิวเสี้ยนรวมถึงรอยด่างดำจางลงเพราะในมะเขือเทศนอกจากจะมีวิตามินซีที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวแล้วยังมีสาร Licopersioin ซึ่งมีฤธิ์ในการทำลายเชื่อแบคทีเรียซึ่งเป็นเชื่อที่ก่อให้เกิดสิว อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้สำหรับคนที่ระบบขับถ่ายไม่ค่อยดีที่ส่งผลถึง สุขภาพที่สท้อนออกมาทางใบหน้าเพราะไม่ได้ขับถ่ายของเสียออกมา อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ฉนั้นจึงขอแนะนำมะเขือเทศซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายอีกด้วย และเพื่อความงามของสาวสาว วันนี้มีวิธีมาร์คหน้า ง่ายๆมาฝากครับ  อันดับแรกเลยสิ่งที่ต้องเตรียม มะเขือเทศสดสามผล และโยเกริตร์ถ้าจะให้ดีขอเป็นโยเกริตร์เพียวๆนะครับจากนั้นก็นำมะเขือไปปั่นให้ละเอียดเมื่อได้เนื้อมะเขือเทศปั่นแล้วสิ่งต่อไปที่จะต้องทำคือตักเนื้อ มะเขือเทศมา4-5ช้อนชาผสมกับโยเกริต์ในอัตราส่วนที่เท่ากันแล้วก็คนให้เป็นเนื้อเดียวกัันจากนั้นทิ้งไว้5นาทีเพื่อให้ เกิดปฎิกริยาจากนั้นก็นำมาพอกหน้าในส่วนต่างๆที่ต้องการจะดูแลรักษาทิ้งไว้10-15นาทีจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาดถ่านจะสัมผัสได้ของผิวหน้าที่เต่งตึงและดูอมชมพูซ่งวิธีนี้เราอาจจะเรียกว่า การทำaha เพราะเกิดกระบวณการในการพลัดเซลล์ผิวของเราแค่วิธีง่ายทำเป็นประจำสัปดาห์ละอย่างน้อย สามครั้งสุขภาพผิวท่านก็จะดีขึ้นมาได้โดยไม่ต้องพึ่งครีมทาบำรุง ที่อาจจะทำให้เกิดสารพิษค้างบนใบหน้าท่านได้  ในการที่ท่านจะบริโภคมะเขือเทศนั้นมีข้อระวังคือท่านไม่ควรรับประทานผลดิบเพราะจะให้โทษแก่ท่านเพราะมีสาร alkaloid อยู่ในผลดิบสีเขียวมีโทษต่อเซลล์เม็ดเลือดแดงซึ่งอาจทำให้แตกได้ซึ่งทำให้เซลล์ผิวแตกทำให้เกิดอาการระคายเคืองนอกจากนี้ยังส่ง ผลกระทบต่อระบบอาหารทำให้เิดอาการปวดแซบและยังมีฤธิ์ถึงขั้นทำให้เกิดอำมพาดได้ถ้าหากถ่านบริโภคบ่อยเยอะเป็นเวลานานแต่สาร alkaloid ไม่พบในผลสุข1000%ฉะนั้นอย่าตกใจไปครับหสกท่านรู้จักวิธีบริโภคที่ถูกวิธีในการที่มนุษย์เราจะดำรงค์ชีวิตที่ปกติสุขได้มีเงินเป็นล้านแต่สุขภาพย่ำแย่ก็ไม่มีใครที่จะมีควาสุขอย่างบริบูรณ์ได้หรอก เพียงแต่ท่านหันกลับมา ดูแลและใส่ใจตัวเองท่านก็จะมีสุขภาพและอายุที่ยืนยาว ท้ายนี้เช่นเคยครับสุขภาพดีหาได้ด้วยตัวเองครับ

มะเขือเทศ(TOMATO)

Tomato

มะเขือเทศ(Tomato)ชื่อในทางวิทยาศาสตร์ Lycopersicon Esculentum Mil  จัดเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งหลายท่านอาจจะเข้าใจผิดเพราะถ้าพูดถึงพืชผักสวนครัวคงมีคนจำนวณไม่น้อยที่จะนึกถึงมะเขือเทศที่นึกว่ามะเขือเทศเป็นพืชผัก มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่มีผู้คนนิยมมากที่สุดในโลกเพราะนอกจากจะรับประทานผลสดแล้วยังนำมาแปรรูปอยู่ในรูปของ ซอสมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศซึงนิยมทานกันทั่วโลกแต่ในบ้านเราร่วมถึงตัวกระผมเองอาจจะไม่ค่อยถูกกับกลิ่นของมันสักเท่าไหร่แต่ว่าถ้าได้เห็นประโยชน์จะมองข้ามกันเลยทีเดียว เพราะในมะเขือเทศมีสารอาหารมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกทั้งยังช่วยบำรุงสายตารักษาโรคร้ายถึงแม้มะเขือเทศอาจจะมีกลิ่นเหม็นเขียวสำหรับคนไทยเราอยู่บ้างแต่ถ้าว่าวัดกันตรงที่ประโยชน์แล้วอาจเปลี่ยนความคิดท่านได้ ส่วนสำหรับสาวพลาดมิได้เลยกับความงามที่ได้จากสารในมะเขือเทศที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวและความอ่อนวัยที่ท่านจะได้รับจากการรับประทานมะเขือเทศเพราะมันอาจเปลี่ยนแปลงสุขภาพและความงามของท่านได้ด้วยสารอาหารที่ซ้อนอยู่ในผลสีแดงๆนี้ก็ได้ เรามาดูคุณประโยชน์
ที่ท่านจะได้รับดีกว่าครับผมรับรองเลยครับว่าท่านจะไม่เสียใจที่หันมาบริโภค

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

10 ข้อต้องจำ เมื่อจะหม่ำมะเขือเทศ

10 ข้อต้องจำ เมื่อจะหม่ำมะเขือเทศ

 ควรทานมะเขือเทศแบบสุก เพื่อให้ได้รับสารไลโคปีนมากขึ้น 
           ผู้ชายยิ่งควรเน้นทานมะเขือเทศสุก เพราะไลโคปีน ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้ 

           ส่วนผู้หญิงอาจทานแบบสดบ้าง เพื่อให้ได้รับวิตามินซี มาบำรุงผิวพรรณ 

           หากจะดื่มน้ำมะเขือเทศ ควรดื่มหลังอาหาร เพื่อให้น้ำมันในอาหารช่วยดูดซึมไลโคปีน แต่ถ้าอยากดื่มก่อนอาหาร ให้หยดน้ำมันผสมลงไปก่อนดื่ม 

           ไม่ควรดื่มน้ำมะเขือเทศเกินวันละ 2 แก้ว เพราะอาจมีโพแทสเซียมตกค้างในร่างกาย 

           ถ้าดื่มน้ำมะเขือเทศแบบกล่อง หรือบรรจุขวด ให้เลือกยี่ห้อที่มีโซเดียมน้อย 

           ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะเขือเทศ เพราะมีโพแทสเซียมสูง 

           คนที่มีปัญหากรดไหลย้อน ไม่ควรทานน้ำมะเขือเทศมากเกินไป เพราะมะเขือเทศมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ 

           ดื่มน้ำมะเขือเทศช่วยบำรุงผิวพรรณได้จริง แต่ไม่ได้ทำให้ผิวขาวขึ้น 

           ไม่ควรดื่มน้ำมะเขือเทศมาก หรือติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจทำให้เป็นนิ่วได้ 

          สารพันประโยชน์ขนาดนี้ อย่าลังเลที่จะเติม "มะเขือเทศ" เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารของเรานะคะ หรือถ้าคั้นน้ำดื่มเองทุกวัน วันละแก้ว สองแก้ว ก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย พร้อมวิตามินแร่ธาตุอย่างเต็มเปี่ยมที่จะได้รับจากพืชผักชนิดนี้